Friday, September 15, 2006

End of life

วันนี้เจอเรื่องเศร้ามา
คือคนไข้เป็นมะเร็งตับเหมือนที่ดีเจโจ้เป็นอ่ะ (HCC= hepatocellular carcinoma) เคยมานอนโรงพยาบาลหลายครั้งแล้วล่าสุดมีปัญหาเรื่องอาเจียนเป็นเลือด มาวันนี้ด้วยเรื่องซึมและมีอาการบวมมากขึ้น มาที่ ward วัด BP ได้ 80/50 mmHg เราซึ่งกำลังเข้า conference อยู่ก็โดนตามว่าคนไข้ BP drop ก็ขึ้นไปดูคนไข้ พบว่าคนไข้ดูซึมๆ เรียกรู้สึกตัวบ้าง คลำ pulse ได้เบาๆ ก็ได้ advice ญาติ ญาติก็ยอมรับดีและรู้อยู่แล้วว่าคนไข้เป็นมะเร็งตับ โอกาสรอดชีวิตก็น้อย ญาติ(ภรรยา)ก็ไม่อยากให้ทรมานคนไข้ อยากให้คนไข้ไปอย่างสบาย แล้วญาติก็ก้มพูดกับคนไข้และลูบหัวลูบตัวว่า ป๊าไม่ต้องห่วงอะไรนะคิดแต่สิ่งดีดีไว้นะ ทันใดนั้นน้ำตาเราก็เริ่มคลอเบ้า แต่ด้วยความที่เป็นหมอนะ ห้ามร้องไห้เด็ดขาด ในใจเศร้ามากนะ แต่ต้องทำหน้าตาเฉยอ่ะ ไม่รู้ว่าญาติจะเข้าใจความรู้สึกเรารึเปล่าเน๊อะ หมอก็รักษาตามอาการก็ไม่อยากทรมานคนไข้ นี่ยังดีนะ ญาติบางคนเหมือนอยากยื้อถึงแม้รู้ว่าคนไข้ไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่ก็อย่างว่านะ ถ้าเป็นญาติเราหล่ะ เราจะเอายังไง เชื่อมั้ย เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าถ้าเป็นญาติเราเราจะทำยังไง ก็ยังตอบไม่ได้นะ ถ้าคิดว่าไม่อยากทรมานคนไข้ก็จริงอ่ะ แต่ถ้าเรารักเค้ามากๆ ก็อยากให้เค้าอยู่กับเรานานๆ ถึงแม้ว่าเค้าจะนอนเอ๊งเม๊งอยู่ก็ตาม แต่นี่แหล่ะกิเลศของคน อยากได้อยากมี มัวแต่คิดว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา ทำให้เกิดทุกข์ หากเราคิดว่าชีวิตเค้าไม่ใช่ของเรา เราจะทรมานเค้าเพื่อให้เรารู้สึกดีแค่ว่ายังมีเค้าอยู่ แต่ลืมคิดไปว่าเรากำลังทรมานคนที่เรารักอยู่ ในทางกลับกันหากย้อนถามกลับไปว่าหากคนที่กำลังจะตายเป็นเราหล่ะ เรากลับคิดว่าจะไม่ให้หมอใส่ท่อช่วยหายใจ ไม่ต้องปั้ม ถ้าจะไปก็ปล่อยให้ไป ที่พูดอย่างนี้ได้ก็เพราะว่ารู้ว่าการใส่ท่อช่วยหายใจนั้นทรมานมาก คิดดูละกันว่ามีอะไรอยู่ในปากในคอตลอดเวลาอ่ะ ทรมานแย่เลย
แต่มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนนะ คนแต่ละคนก็มีความคิดแตกต่างกัน มีประสบการณ์ที่ต่างกัน มีความรู้ต่างกัน ไม่ได้หมายถึงการศึกษานะ แต่หมายถึงความรู้ไม่ว่าจะเคยได้ยินใครมา หรือว่ารู้ด้วยตัวเองว่าสิ่งไหนเป็นยังไง สิ่งไหนทำให้เกิดความทรมานหรือไม่ นานาจิตตังนะจ๊ะ แต่ก็อยากทิ้งท้ายไว้ว่าไม่ว่าจะทำอะไรอย่าคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงคนอื่นบ้าง เค้าอาจจะไม่ได้คิดอย่างที่เราคิดก็ได้ เค้าอาจจะไม่มีโอกาสได้อธิบายให้เรารู้ เพราะฉะนั้นลองมองคนอื่นบ้าง มองรอบตัวตัวเองบ้าง เราอาจจะเห็นหรือรู้อะไรมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ก็ได้

No comments: