Tuesday, September 12, 2006

หัวเราะเย้ย

วันนี้เจอเรื่องที่ไม่เคยเจอในชีวิตนักศึกษาแพทย์มาก่อน
การเป็น Extern Med wk2. ก็เจอเรื่องเข้าจนได้
คนไข้มาด้วยเรื่องปากเบี้ยวประมาณ 6 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล บอกว่าคนไข้เข้าห้องน้ำแล้วหายไปนาน ญาติตามเข้าไปดูเห็นปัสสาวะอุจจาระราด มีแขนขาข้างซ้ายอ่อนแรง ถามตอบพอรู้เรื่องแต่ญาติบอกว่าดูมึนๆ ก็เลยพามาโรงพยาบาล
ที่ ER ตรวจร่างกาย E4V5M6 good consciousness มี weak grade III ข้างซ้าย ข้างขวา grade V , facial palsy Rt. ปฏิเสธโรคประจำตัว R/O stroke
จำได้ว่าตอนคนไข้ขึ้นมาบนวอร์ด ยังไม่มีใครได้ดู พอประมาณตอนบ่ายก็ไม่มีคนอยู่วอร์ดเพราะมีเรียน lecture และแล้ว เราก็โดนตามทางมือถือ พยาบาลโทรมาบอกว่าญาติเตียง 24 ต้องการพบหมอด่วน เราก็เลยต้องออกจากห้อง lecture แล้วขึ้นไปบนวอร์ด
พอไปดูก็เห็นญาติอยู่เต็มเตียงเลย เราก็ review ประวัติดู แล้วก็ไปหาคนไข้และญาติที่เตียง ก็ซักประวัติตรวจร่างกาย ที่ ward ตรวจร่างกายได้ motor grade V all ยกเว้นบริเวณ Lt.arm ประมาณ grade IV , facial palsy, sensory intact ดี , barbinski plantar response , clonus negative , ตอนนั้นก็นึกถึง ischemic stroke (embolic) ก็บอกคนไข้ไปว่าตอนนี้หมอนึกถึงว่ามีเส้นเลือดในสมองอุดตันทำให้สมองบางส่วนขาดเลือดทำให้มีอาการปากเบี้ยว อ่อนแรงอย่างที่ผู้ป่วยเป็นอยู่นี้ ตอนนี้หมอขอสังเกตอาการก่อน ช่วงนี้ให้งดน้ำงดอาหารก่อน และหมอได้ให้น้ำเกลือไว้ ทันใดนั้นก็มีเสียงญาติหัวเราะขึ้นมาว่า เฮอะๆ ให้แต่น้ำเกลือ เราก็หันไปบอกว่า การให้น้ำเกลือก็เป็นการรักษาคนไข้อย่างนึงนะ แล้วญาติอีกคนก็ถามว่าแล้วไม่ตรวจสมองดูเหรอ (CT brain) เราก็บอกไปว่าตอนนี้ถือว่าคนไข้ไม่เร่งด่วน แต่ถ้ามีปากเบี้ยวมากขึ้น หรือว่าอ่อนแรงมากขึ้นถึงจะต้องเรา CT emergency และแล้วญาติคนเดิมก็หัวเราะตอบกลับมาอีก พร้อมหันไปพูดกับญาติด้วยน้ำเสียงไม่ดีมากๆ ว่า "ต้องรอให้ปากเบี้ยวมากกว่านี้อีก" เราเข้าใจนะว่าหัวอกญาติด้วยความเป็นห่วงคนไข้กลัวเป็นอันตรายอะไรมาก แต่การกระทำแบบนี้แย่มากๆ รับไม่ได้ เราทำตาม guildline ทุกอย่าง การทำ CT หากไม่เร่งด่วนมากไม่มีผลต่อการรักษา ก็ต้องรอคิวดู ตอนนั้นอารมณ์ขึ้นมากๆ ก็มองหน้าญาติคนนั้นแล้วก็เดินหนีซะ บอกตามตรงว่าไม่อยากคุยด้วยอีกแล้ว อารมณ์เสียอ่ะ เซ็งมากๆ ด้วย เราก็ไม่เคยหวังร้ายกับใคร ทำไมเค้าถึงไม่เข้าใจเจตนาของเรานะ แต่ท้ายที่สุดเราก็กลับไปดูคนไข้อีกรอบนะ แล้วก็ได้คุยได้อธิบายให้ญาติ(อีกคน)ฟัง เค้าก็ยอมรับเข้าใจดี แต่ถ้าเจอญาติคนเดิมนั้นก็คงไม่อยากไปคุยด้วยหรอก

No comments: