Sunday, July 15, 2007

เพิ่งเริ่มทำงาน

ช่วงที่ผ่านมาเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิตเลยทีเดียว ก็คือการได้เริ่มการทำงานหาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
นี่ก็ทำงานมาได้ 2 เดือนกว่าๆ แล้ว (เริ่มเบื่อแล้วสิ แฮะๆ )
2 เดือนกว่าที่ผ่านก็ได้เจอเรื่องราวมากมายทีเดียว เริ่มจากเดือนแรกก็ได้อยู่ ward surgery ได้สัมผัสการดูคนไข้ที่เราเป็นเจ้าของไข้จริงๆ คือรับผิดชอบชีวิตคนๆ นั้นจริงๆ แรกๆ ก็มี staff มา round ด้วย หลังๆ ก็เริ่มต้อง round คนเดียว ตัดสินใจเอง
ช่วงที่อยู่ ศัลยกรรม ได้ round ward ศัลย์หญิง มี case หนึ่ง ที่ประทับใจมาก ก็คือเป็นเด็กผู้หญิงเพิ่งจะจบม. 6 ประสบอุบัติเหตุรถชนแล้วตกน้ำจมน้ำไป รับย้ายมาจาก ortho รู้สึกว่ามีกระดูกหักหลายที่เหมือนกัน แล้วเราก็ได้รับ consult เรื่องที่ว่าน้องเค้ามีเอะอะโวยวายไม่ค่อยรู้ตัว เ้ค้าให้มาช่วยประเมินดูว่าน้องเค้ามีปัญหาอะไรในหัวรึเปล่า คือปกติแล้วคนไข้ที่มีอุบัติเหตุแล้วจำเหตุการณ์ไม่ได้ หรือว่ามีประวัติสลบ หรือว่าเมา ก็จะให้นอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการทางระบบประสาทว่ามีความผิดปกติอะไรรึเปล่า เช่น มีเลือดออกในสมอง หรือไม่ น้องคนนี้ก็เช่นกัน ก็ให้ไปดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
ตอนที่เราไปดูน้องเค้าวันแรก น้องก็ถามตอบรู้เรื่อง แต่จะบ่นเรื่องปวดมากกว่า ดูแล้วเหมือนจะเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ก็รายงาน staff ไปว่าไม่น่าจะมีอะไรในหัว แต่น้องเค้ามีปัญหาเรื่องเกลือแร่ในร่างกายต่ำมาก ซึ่งก็อาจจะเกิดจากที่น้องเค้าจมน้ำก็ได้ ก็ได้รับย้ายน้องเค้ามารักษาที่ตึกศัลยกรรม ก็แก้ไขเรื่องเกลือแร่ตัวนี้ไปเรื่อย ให้กายภาพบำบัดไป น้องก็เหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อย
มีอยู่วันหนึ่ง staff ortho มา round แล้วมาพูดอีท่าไหนไม่รู้ แม่น้องเค้าร้องไห้ใหญ่เลย สอบถามได้ความว่า อ.เค้าบอกว่าน้องเค้าเกลือแร่ต่ำมาก อาจจะอยู่ได้ไม่ถึง 7 วัน ตอนนั้นเราก็ยังไม่มั่นใจหรอกนะว่าน้องเค้าจะเป็นยังไง เราก็พยายามแก้เรื่องเกลือแร่ตัวนี้อยู่ แต่ก็ตกใจเหมือนกันที่ว่า 7 วันเองเหรอ ก็เลยบอกแม่เค้าว่าก็มีโอกาสเป็นได้ที่น้องเค้าจะแย่ลง แต่เราก็ดูแลน้องเค้าเรื่อยๆ จนน้องเค้าสีหน้ายิ้มแย้มมากขึ้น ตัวเกลือแร่ก็ดีขึ้น น้องเค้าเริ่มพูดจา ยิ้มแย้ม แต่มีเรื่องนึงคือ น้องเค้าต้องการไปสอบเข้าเรียนมหาลัย แต่สภาพตอนนี้คือไปไม่ได้แ่น่นอน น้องเค้าก็เสียใจและก็เสียดาย อยากออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ ก็เลยบอกน้องเค้าว่าไว้ปีหน้าก็ได้ ปีนี้ก็ให้อ่านหนังสือเตรียมตัวไปก่อน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องเค้าจะคิดยังไงบ้าง ทำใจได้มากน้อยแค่ไหน ท้ายสุดน้องคนนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้ในสภาพที่สดชื่น แต่ยังต้องใส่เฝือกไปอีกนาน case นี้ที่ประทับใจก็เพราะว่าถือเป็น case แรกที่เรารู้สึกว่าเราได้ดูแลรักษาเค้าจริงๆ ด้วยความสามารถของเราจริงๆ ภูมิใจมากๆ