Thursday, October 25, 2007

หัวอกคน refer

" น่าน" ดินแดนอันสวยงาม & ไกลโพ้น ( อิๆ ไปนั่น) จะว่าไกลก็ไกลนะ แต่ไม่ค่อยเจริญเท่าไหร่ เมื่อก่อนน่านเคยเป็นเมืองปิด อารยธรรมตะวันตกยังเข้าไม่ถึง แต่ทุกวันนี้ มี seven 4 แห่งแล้วนะ มิหนำซ้ำยังมี Lotus น้อยๆ ไว้ให้เที่ยวเล่นจับจ่ายใช้สอย

รพ.น่าน ก็เช่นเดียวกัน ยังคงมีวัฒนธรรมองค์กรแพทย์อันแข็งแกร่ง แต่ทุกวันนี้น่านเจอวิกฤตขาดแคลนศัลยแพทย์อย่างหนัก จากที่เคยมีหมอศัลย์ 5 คน ก็เหลือแค่ 2 คน แถมอีกคน function ถึงเที่ยงคืนอีกต่างหาก ( Stroke กินน่ะ) เพราะฉะนั้นหากมี case หนักๆ (ซึ่งปกติต้อง refer อยู่แล้ว ด้วยศักยภาพของรพ.ที่มีขีดจำกัด ) หรือ มี case มากจนศัลยแพทย์ไม่สามารถจะผ่าได้แล้ว ก็จำเป็นต้อง refer

หัวอกคน refer อย่างเราก็ต้อง agitate อย่างแรง ด้วยต้องคิดว่า จะ refer ที่ไหนดี แล้วก็ลุ้นมากๆ ว่าเค้าจะรับมั้ย จะพูดยังไงดีว๊าาาา เค้าถึงจะรับ

อันดับแรกต้องใช้ประสบการณ์(อันน้อยนิด) ประมวลว่า ความน่าจะเป็นที่ที่ไหนจะรับ case มากที่สุด ก็เสี่ยงดวงโทรติดต่อไป ซึ่งการจะติดต่อ refer แต่ละครั้งก็ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย เริ่มต้นด้วยการหาเบอร์โทรศัพท์รพ.นั้นๆ แล้วโทรติดต่อไปหา operator จากประสบการณ์(อันน้อยนิดเช่นกัน) คิดว่าของ มหาราช work สุด เพราะสามารถให้คำตอบได้ทันทีเลยว่าเราจะติดต่อใครได้ จะต้องทำยังไงบ้าง

แต่บางโรงพยาบาลทำให้เราเสียเวลามากด้วยว่าเค้าต่อสายไปให้เราผิดที่ ทำให้ต้องเสียเวลาโทรไปใหม่ ซ้ำ ๆ

ต่อไป พอเราติดต่อ operator เสร็จ ส่วนมากก็จะต้องคุยกับพยาบาล ER เพื่อส่ง case แล้วถามว่าแพทย์อะไรอยู่เวร แล้วก็ต้องโทรติดต่อแพทย์เวรเองอีกทีว่าเค้าจะรับหรือไม่รับ case ทีนี้ก็ลุ้นสิครับท่านว่าเค้าจะรับหรือไม่รับ แต่มันก็แล้วแต่ดวงคนไข้นะ ถ้าเตียงว่างก็โชคดีไป บางคนใส่ tube ก็ได้ไป บางที่ไม่อยากได้ tube บางที่ไม่รับ case trauma แบบว่าเดายากอ่ะ ก็ต้องแล้วแต่ดวงละกันว่ะ

ถ้า staff วันนั้นรับ case ก็จะ เย้ !!!!! สำเร็จภารกิจซะที

แต่ถ้า เตียงเต็มครับน้อง นี่ ก็ เฮ้อ !!!!! โทรไปที่ไหนต่อดีหว่าาาาา

หัวอกคน refer ก็ได้แต่คิดว่า เอาน่า มันต้องมีสักที่ที่รับหน่ะ ไม่เป็นไรโทรต่อไป ... เพื่อคนไข้ว่ะ

แต่วันนี้ก็ดีใจที่ case เรามีคนดูแลต่อแล้ววววว เย้ๆ

Friday, October 19, 2007

โกรธอ่ะ

ผิดมั้ย??? ที่หมอจะโกรธคนไข้อ่ะ
แต่วันนี้โกรธจริงๆ นะ
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า
วันนี้เราอยู่เวร ER อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงคืนละ จะได้ลงเวรแล้ววว
็ก็มีคนไข้คนนึงเดินเข้ามา บอกว่าอยู่ดีดีก็ปวดข้อมือขึ้นมาทันทีทันใด
เราก็ลองให้คนไข้กำมือ คนไข้บอกว่ากำไม่ได้ เราก็เลยให้ลองงอนิ้วทีละนิ้ว
นิ้วก้อย.. งอได้
นิ้วหัวแม่มือ... งอได้
นิ้วชี้... โอ๊ยยย เจ็บอ่ะ จะให้ทำยังไง(น้ำเสียงโกรธและไม่พอใจมาก)
... ถ้าหมอไม่ตรวจแล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ......
" ก็มันปวดอ่ะ จะให้ทำยังไง " ....
อึ้งสิคะ แล้วก็พูดกับคนไข้ว่า "งั้นก็รอไปก่อน" (เพราะหมอขอไปสงบสติอารมณ์ก่อน )
โกรธมากอ่ะ พูดด้วยดีดี ทำไมต้องตะคอกทำเสียงไม่พอใจอย่างงั้นด้วยอ่ะ ทั้งๆ ที่เราก็พูดดีด้วย
หมอนะ ... ไม่ใชขี้ข้า ที่จะคอยมารองรับอารมณ์บ้าๆ บอๆ อ่ะ ไม่ให้ตรวจแล้วจะมารพ.ทำ.. อะไร
ก็เข้าใจนะ ถ้ามันปวดก็ปวดอ่ะ ทำไมคนไข้หลายคนที่เค้าปวดมากกว่านี้เค้ายังอดทนให้หมอตรวจอ่ะ
หมอมีสิทธิ์เลือกรักษาคนไข้มั้ยอ่ะ (ไม่มีหรอก) แต่อย่างน้อยก็อยากได้คำว่า "สิทธิของหมอ" บ้าง ไม่ใข่มีแต่สิทธิ์ของคนไข้
คนไข้มีสิทธิ์ที่จะรู้ ที่จะเลือกรับหรือไม่รับการรักษาได้ แล้วทำไมหมอ ไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่บอก ไม่รักษาบ้าง ก็เข้าใจนะว่าคงเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้เกียรติกันบ้าง ยิ่งให้สิทธิ์เค้ามาก เค้าก็ใช้ิิสิทธิ์ของเค้ามาก(เกินไป) เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว ไม่เห็นอกเห็นใจคนอื่นบ้าง จ้องแต่จะจับผิด ทำไมไม่คิดบ้างว่าหมอก็ตั้งใจจะรักษานะ ไม่ได้หวังจะมาจับผิดหรือแกล้งคนไข้สักหน่อย ...... ไม่เข้าใจอ่ะ .... โกรธ