Tuesday, September 12, 2006

ไม่เข้าใจ

วันนี้ประมาณตอนเที่ยงกว่าๆ เราขึ้นวอร์ดไปก็เจอพี่และก็เพื่อน extern กำลังขึ้นปั้มคนไข้อยู่เชียว ก็เลยรีบวางของแล้วก็ไปช่วยปั้ม
ระหว่างนั้นก็พอทราบประวัติว่าเป็น COPD(ถุงลมโป่งพอง)แล้วมีหอบเหนื่อยมากขึ้นญาติเลยนำส่งโรงพยาบาล
แล้วที่ ER พบว่าหอบเหนื่อยมากเค้าก็เลยให้ admit พอขึ้นมาบนวอร์ดคนไข้ก็หายใจหอบเหนื่อยมากพยาบาลก็เลยให้ยาพ่นช่วยขยายหลอดลมแล้วก็โทรตามเราแต่ว่ากดเบอร์ผิดพยาบาลเลยหาว่าเราไม่ยอมรับสาย(อันนี้พยาบาลเล่าให้ฟังตอนหลัง) ก็เลยโทรหา เพื่อนอีกคน เค้าก็เลยมาประเมินคนไข้เห็นว่าหอบมากก็เลยจะใส่ท่อช่วยหายใจ แต่พอจะใส่คนไข้ก็ไม่หายใจเลย ณ บัดเดี๋ยวนั้นเลยก็เลยต้องขึ้นปั้มคนไข้ พอปั้มไปได้สักพักการเต้นของหัวใจคนไข้ผิดปกติ ( VTag) ก็เลย shock (เครื่องปั้มหัวใจ) แต่ก็ยังไม่ขึ้น ก็ปั้มต่อไปเรื่อยให้ยากระตุ้นหัวใจ แต่ก็ยังไม่มีการเต้นของหัวใจ คลำ pulse(ชีพจร)ก็ไม่ได้ พอประมาณครึ่งชั่วโมงได้ก็เลยเรียกญาติมาคุย ถามประวัติซ้ำ แล้วก็บอกว่าคนไข้ไม่ไหวแล้ว แต่ญาติก็พูดขึ้นมาว่า รู้อย่างงี้ให้อยู่บ้านก็ดี เพราะก่อนจะมาโรงพยาบาลก็ยังดีดีอยู่เลย พอหมอ(หมายถึงพยาบาล)ให้ยาพ่นไปก็ไม่หายใจเลย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดของญาติว่า การที่เค้าเห็นคนไข้ยังดีดีอยู่ตอนแรกนั้น คนไข้หายใจหอบเหนื่อยมาก และในทางการแพทย์ก็ถือว่าแย่จึงจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ญาติกลับเข้าใจผิดไปว่าเป็นเพราะหมอทำให้คนไข้แย่ ซึ่งการให้ยาช่วยขยายหลอดลมก็เป็นการช่วยคนไข้ แล้วญาติก็พูดซ้ำๆ ว่า รู้งี้เอาไว้บ้านยังจะดีกว่าอีก และแล้วคนไข้ก็ตาย เพราะช่วยสุดๆ แล้วทั้งให้ยา ทั้งปั้มหัวใจและใช้เครื่องช่วยปั้ม ก็ไม่มีการเต้นของหัวใจแล้ว พี่เค้าก็เลยบอกญาติว่าคนไข้ตายแล้วและหมอก็ได้ช่วยเต็มที่แล้ว แต่ญาติก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แล้วจะให้หมอทำยังไงหล่ะ ในเมื่อหมอก็รักษาเต็มที่แล้ว สุดความสามารถแล้ว แต่คนไข้ไม่ไหวจริงๆ แต่ก็ยอมรับนะคนไข้เสียเร็วมากเพราะปกติการเป็นถุงลมโป่งพองแล้วมีอาการหอบเหนื่อยมากระทันหันอย่างนี้น่าจะมีอะไรอย่างอื่นที่ทำให้คนไข้เสียชีวิต ซึ่งหากคนไข้มาด้วยอาการที่แย่ขนาดนี้แพทย์เองก็ไม่สามารถจะหาสาเหตุได้ทัน ที่ทำได้ตอนนั้นก็เพียงช่วยคนไข้ให้เต็มที่อ่ะ เพียงแต่ตอนนี้รู้สึกแย่ว่าที่เราอุตส่าห์ช่วยคนไข้กลับทำให้ญาติคิดว่าเราทำร้ายคนไข้ อยากจะบอกว่าไม่มีหมอคนไหนที่คิดจะทำร้ายคนไข้หรอกนะ มันเหมือนเป็นหน้าที่ เหมือนเป็นจิตสำนึกที่เมื่อเห็นคนไข้มาแล้วก็ต้องคิดแล้วว่าคนไข้เป็นอะไร จะรักษายังไง เชื่อเหอะ แต่ที่เห็นว่ามีการฟ้องร้องกันมาก เป็นเพราะเหตุสุดวิสัยเกือบทั้งนั้น เฮ้อ เมื่อไหร่จะเข้าใจซะที

No comments: